
ทุกวันนี้ เราสามารถข้ามโลกได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส หากแต่บริษัทหรือภาคธุรกิจที่อยู่ในประเทศไทย ก่อกำเนิดด้วยคนไทย และเป็นที่รู้จักเฉพาะในประเทศไทยจำนวนไม่น้อย ที่ยังไม่สามารถก้าวข้ามออกไปสู่ตลาดสากลได้
การนำบริษัทเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจึงเป็นทางเลือกหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าวัตถุประสงค์หลักคือการระดมทุน หากแต่สิ่งที่ควบคู่มาด้วยก็คือ แรงจูงใจที่ต้องการขายหุ้นให้กับชาวต่างชาติและตอกย้ำแบรนด์ในตลาดโลก แต่ก็อาจจะยังมีข้อจำกัดอยู่ คือการซื้อขายหุ้นไทยจะทำได้เพียงแค่ในตลาดซื้อขายหลัก (Main Board) เท่านั้น
ที่ปรึกษาด้านกฎหมายหรือการเงินของบริษัทนั้นๆ มักจะแนะนำทางออกให้โดยเสนอวิธีการแบ่งหุ้นของตนเองโอนไปจดทะเบียนในต่างประเทศ ซึ่งมักจะอยู่ในรูปแบบบริษัทการค้านอกอาณาเขต (Offshore Company) เพื่อใช้ในการถือหุ้นแทน
ทั้งนี้ การโอนหุ้นไปอยู่กับบริษัทการค้านอกอาณาเขตจะได้ประโยชน์ ได้แก่ 1. สามารถขายหุ้นให้กับทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยไม่ติดกฎเกณฑ์เรื่อง Main Board หรือ Alien Board (ตลาดซื้อขายสัดส่วนหุ้นของชาวต่างชาติ) เพราะบริษัทนั้นจะถือสถานะเป็นนิติบุคคลต่างประเทศ 2. ผลประโยชน์ทางภาษีเมื่อขายหุ้นและได้กำไร


ศาสตราจารย์ ดร.อาณัติ ลีมัคเดช คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) และอาจารย์ที่ปรึกษาของงานวิจัยดังกล่าว บอกว่า ประเด็นเรื่องการโอนหุ้นไปเปิดบริษัทการค้านอกอาณาเขต จนทำให้เกิดเจ้าของหุ้นซ่อนเร้นมีมาค่อนข้างนานแล้ว ซึ่งเดิมไม่ใช่การกระทำที่เป็นเจตนาเลวร้ายเพื่อจะซ่อนธุรกรรม แต่เป็นไปเพื่อเอื้อในการทำธุรกรรมมากกว่า ซึ่งกฎหมายไทยก็เปิดช่องไว้ให้ ดังนั้นไม่ได้บอกว่าสิ่งนี้ดีหรือเลว แต่เรียกว่าเป็นธรรมเนียมทางธุรกิจที่ถูกต้องตามกฎหมายน่าจะเหมาะสมกว่า
อย่างไรก็ตาม การไม่เปิดเผยนอมินีทำให้เกิดภาพขุ่นมัวกับองค์กรแน่นอน เช่น บริษัทหนึ่งบริหารไม่ดี และผู้ถือหุ้นใหญ่ถือครองหุ้นไว้ 30% จากนั้นคนในบริษัทนั้นอยาก Take over จึงพยายามรวมกันให้ได้มากกว่า 30% แต่ปรากฎว่าตอนโหวตจริงๆ ผู้ถือครองหุ้นใหญ่มีหุ้นที่ซ่อนอยู่ในบริษัทการค้านอกอาณาเขตอีก ก็อาจทำให้การโหวตเพื่อล้มแพ้ไปได้ รวมถึงอีกแง่นึงจึงเป็นเหมือนการเบียดบังผลประโยชน์ผู้ถือหุ้นรายย่อย ดังนั้นการหาวิธีที่จะคิดสัดส่วนจึงมีความสำคัญอย่างมาก
“ความเจ๋งของงานวิจัยก็คือว่าเราตั้งโจทย์ที่มัน Practical แล้วก็เราเสนอวิธีการคิดที่มันค่อนข้างใหม่ไม่มีใครทำมาก่อน คนโต้แย้งลำบาก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องค่อนข้างสุ่มเสี่ยง ลองนึกภาพว่าผมอุตส่าห์เอาหุ้นไปซ่อนไว้แล้ว แต่ดันมีอาจารย์กับลูกศิษย์มาบอกว่าพวกนั้นเป็นพวกเดียวกับผม ถ้าคุณไม่มีหลักฐานที่เข้มแข็งพอไปชี้หน้าว่าเขาพวกเดียวกันอันนี้เรื่องใหญ่
“ไม่เคยมีงานวิจัยมาก่อนทั้งในไทยและต่างประเทศที่จะสามารถมาบอกได้ว่าผู้ถือหุ้นใหญ่ไปซ่อนหุ้นไว้ที่ไหนยังไง งานวิจัยชิ้นนี้จึงเป็นงานวิจัยแรกของโลกที่สามารถหาวิธีที่จะวัด Hidden Ownerships ได้” ศาสตราจารย์ ดร.อาณัติ กล่าว
Date: 6 กันยายน 2565