เหตุใดประชาธิปไตยจึงมีความสำคัญกับภาคธุรกิจ? ไม่บ่อยครั้งนักที่คำว่า “ธุรกิจ” และ “ประชาธิปไตย” จะถูกนำมาใช้ร่วมกันในประโยคเดียวกัน แต่อย่างไรก็ตาม มันก็มีความเชื่อมโยงที่แน่นแฟ้นระหว่างทั้งสองคำนี้ ซึ่งในประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนใหญ่มักจะมีธุรกิจของภาคเอกชนที่ดำเนินงานอย่างเข้มแข็ง ในขณะที่ประเทศที่ด้อยพัฒนากว่ามักจะประสบปัญหาจากภาคเอกชนที่อ่อนแอและการผูกขาดจากหน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ จึงได้เกิดมีงานวิจัยที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งและกำลังทำการศึกษาอยู่โดยมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard Business School) ที่ได้พิจารณาถึงความสัมพันธ์หว่างภาคธุรกิจและแนวคิดระบอบประชาธิปไตย โดยมีข้อสังเกตว่าในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา โดยเฉลี่ยแล้วพบว่า ระบอบประชาธิปไตยจะสนับสนุนและส่งเสริมให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับที่เพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีตัวอย่างจากทางประเทศที่ไม่ได้เป็นประเทศในระบอบประชาธิปไตย แต่ก็สามารถประสบความสำเร็จได้เช่นกัน โดยตัวอย่างของประเทศจีนที่มักจะถูกนำมาอ้างอิงบ่อยครั้ง แต่หากพิจารณาในระยะยาวแล้ว จะพบว่ายังมีข้อสงสัยอยู่ว่าการเติบโตของประเทศจีนเช่นนี้มีความยั่งยืนอย่างแท้จริง หรือเป็นเพียงการรายงานอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจให้อยู่ในระดับที่สูงเกินความเป็นจริง ซึ่งเป็นคำถามที่ไม่มีผู้ใดจะสามารถตอบคำถามเหล่านี้ได้ ประชาธิปไตยนั้นสามารถปกป้องเสรีภาพในการพูดและเสรีภาพของพลเมืองอื่น ๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้เกิดความโปร่งใส เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในวงกว้าง และเกิดการอภิปรายอย่างเปิดเผย ทำให้ง่ายต่อการระบุนโยบายที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม จึงเป็นที่มีของคำถามที่ว่า “แล้วภาคธุรกิจไทยสามารถช่วยพัฒนาประชาธิปไตยในประเทศได้หรือไม่?” ซึ่งหลายท่านอาจมองว่าคำถามนี้ตอบได้ยาก แต่หากมองให้ดี ๆ ก็จะเห็นว่าภาคธุรกิจของไทยนั้นมีบทบาทในการพัฒนาประชาธิปไตยของประเทศเป็นอย่างมาก ดังนั้น บทความนี้จึงมีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอให้เห็นความสัมพันธ์ร่วมกัน (Symbiotic relationship) ระหว่างภาคธุรกิจเอกชนกับระบอบประชาธิปไตย ซึ่งความสัมพันธ์นี้มีความลึกซึ้งมากกว่าการที่จะเข้าใจเพียงแค่ว่า ภาคธุรกิจเอกชนและระบอบประชาธิปไตยนั้นไม่ได้มีอะไรที่เกี่ยวข้องกันมากนัก ความสำคัญของตลาด “เสรี” เพื่อพัฒนาภาคธุรกิจเอกชนไทยให้มีความเข้มแข็งมากขึ้นRead more